โดยปกติเราไถพรวนดินเพื่อให้ดินมีความร่วนซุย เพื่อให้รากพืชชอนไชหาอาหารได้ดี แต่หลายครั้งมักพบว่า ไถพรวนดินก็ทำแล้ว ทำไมยังเกิดดินก้อนขนาดใหญ่ ดินล่างแน่น ทึบ แข็ง เกิดสภาพพื้นที่สูงๆ ต่ำๆ ไม่เรียบเสมอ แถมยังมีวัชพืชขึ้นประปรายทั่วแปลงอีกด้วย แล้วแบบนี้ จะไถพรวนดินไปทำไม?

การไถพรวนดิน หากทำถูกต้องเหมาะสม จะเกิดประโยชน์ที่ดี นอกจากประโยชน์ที่เราทราบกันดีข้างต้นแล้ว การไถพรวนดิน ยังช่วยเรื่องวัชพืช และการไหลบ่าของน้ำอีกด้วย แต่หากไถพรวนดินไม่ถูกวิธี ก็จะพบผลเสียที่ตามมาอย่างคาดไม่ถึง
ไถพรวนดินบ่อย มากเกินความจำเป็น จะเกิดอะไรขึ้น
โครงสร้างดินถูกทำลาย – ดินถูกไถพรวนจนร่วนละเอียดมากเกินไป ไม่สามารถจับตัวเป็นก้อนได้ อุ้มน้ำและถ่ายเทอากาศได้ไม่ดี ถูกชะล้างพังทลายได้ง่าย ทำให้ธาตุอาหารและอินทรียวัตถุในดินสูญหายไปด้วย
จุลินทรีย์ในดินต้องการอากาศที่ถ่ายเทดี เพื่อทำกิจกรรมย่อยสลาย และแปรธาตุอาหารให้อยู่ในรูปที่พืชนำไปใช้ได้
ไถพรวนดินในระดับความลึกเดียวกัน บ่อยครั้ง เป็นเวลานาน จะเกิดอะไรขึ้น
เกิดชั้นดานไถพรวน– จากแรงกดทับของรถต่างๆ ที่ทำกิจกรรมในแปลง ทำให้ดินถูกอัดตัวแน่นทึบและแข็ง รากพืชชอนไชได้ยาก การไหลซึมของน้ำและการถ่ายเทอากาศไม่ดี พบมากในพื้นที่เนื้อดินค่อนข้างหยาบ มีทรายแป้งสูง
การไถพรวนในแนวขึ้นลง ตามทิศทางความลาดเทบนพื้นที่สูง ทำให้ทรัพยากรดินเสื่อมโทรม ส่งผลให้ผลผลิตลดลง เกิดการเสียเนื้อที่เพาะปลูก และอาจต้องใส่ปุ๋ยเพิ่มมากขึ้นในฤดูปลูกถัดไป
หากไถพรวนดินได้ถูกวิธี
- จะช่วยควบคุมกำจัดวัชพืช ให้ค่อยๆ หมดไปจากแปลงปลูก
- ทำให้ดินร่วนซุย ถ่ายเทอากาศได้ดี ช่วยให้รากพืชดูดใช้ธาตุอาหาร และน้ำได้ดีขึ้น
- เพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำบนผิวดิน ช่วยให้รักษาความชื้นในดินได้ยาวนานขึ้น
- ช่วยให้อินทรีย์วัตถุสลายตัวลงสู่ดิน ทำให้เกิดจุลินทรีย์ในดินที่เป็นประโยชน์ต่อพืช
- ร่องที่เกิดจากการไถพรวน จะช่วยลดความแรงของน้ำ เมื่อเกิดน้ำไหลบ่า
การไถพรวนดินถือเป็นหัวใจสำคัญของขั้นตอนการเตรียมดินเพื่อปลูกพืช เพื่อให้การเตรียมดินปลูกพืชประสบความสำเร็จ จึงควรหลีกเลี่ยงวิธีไถพรวนดินที่ไม่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระยะยาวตามมาทีหลังนะครับ